แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - airrii

หน้า: [1]
1


ทำประกันทั้งทีถ้าสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะได้ทั้งความคุ้มครอง และยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่หลายๆ คนคงกำลังจัดระเบียบการใช้จ่ายของตัวเองและเตรียมเอกสารต่างๆ สำหรับเทศกาลลดหย่อนภาษีปลายปีที่ใกล้เข้ามา แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะต้องซื้อประกันประเภทไหนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มีเงื่อนไขเพิ่มเติมอะไรอีกหรือไม่ และจะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเท่าไหร่ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาไว้ให้แล้ว

ประเภทของประกันลดหย่อนภาษีได้
1.ประกันชีวิต ประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้

ประกันที่เน้นให้ความคุ้มครองแก่ผู้ทำประกัน ในกรณีที่เสียชีวิตจากเหตุไม่คาดคิดก็จะได้รับเงินชดเชยตามวงเงินคุ้มครอง มีหลายรูปแบบ เช่น ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และ ประกันชีวิตควบการลงทุน

โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด
100,000 บาทตามจำนวนที่จ่ายจริง หรือหากจะนับรวมเงินฝากแบบมีประกันด้วยก็ต้องไม่เกิน
100,000 บาท และใครที่มีคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ซึ่งไม่ได้เพิ่งสมรสภายในปีนี้ ก็สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นเดียวกัน

เงื่อนไขการนำประกันชีวิตทั่วไปมาลดหย่อนภาษี
- ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- หากมีการจ่ายเงินปันผลหรือเงินชดเชย จะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี



ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันลดหย่อนภาษีได้
ประกันที่ให้ความคุ้มครองรายได้หลังเกษียณ จะเน้นที่ผลตอบแทนเป็นหลัก เพื่อเป็นหลักประกันรายได้ในยามที่คุณเลิกประกอบอาชีพแล้วนั่นเอง
โดยประกันในรูปแบบนี้จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
15% ของรายได้ (เงินได้ที่ต้องเสียภาษี) สูงสุดไม่เกิน
20,000 บาท หรืออาจลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน
300,000 บาท เมื่อยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- RMF, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
- กบข. และ กองทุนการออมแห่งชาติ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท

นั่นหมายความว่าหากคุณยังใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป ไม่ถึงเพดานสูงสุด 100,000 บาท คุณสามารถนำเบี้ยประกันบำนาญบางส่วนไปหักลบจนครบ 100,000 บาท ก่อนจะนำมาคำนวณหักลบกับ 15% ของรายได้ เป็นส่วนที่สอง

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตแบบบำนาญคือ
- ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- จ่ายผลประโยชน์เป็นงวดจำนวนเงินเท่ากัน หรือในสัดส่วนที่มากขึ้น เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันครบถ้วนก่อนที่จะได้รับผลประโยชน์
- กำหนดช่วงอายุการจ่ายผลประโยชน์ตั้งแต่ 55 - 85 ปี
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี



2.ประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนภาษีได้

รูปแบบประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ คือประกันที่คุ้มครองอาการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ มีการชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
- ประกันอุบัติเหตุเฉพาะ ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะและการแตกหักของกระดูก
- ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันการดูแลระยะยาว
โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และเงินฝากแบบมีประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพตนเองคือ
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี

ซื้อประกันให้พ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้
ในกรณีที่คุณจ่ายเบี้ยประกันให้กับพ่อแม่ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน
15,000 บาท ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ สามารถนำเบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีของพ่อแม่ของคู่สมรสมาลดหย่อนในจำนวนสูงสุดไม่เกิน
15,000 บาท ได้เช่นกัน หรือหากมีการร่วมกันจ่ายกับพี่น้อง ก็สามารถนำมาหารเฉลี่ยตามจำนวนพี่น้องได้เช่นกัน

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพของพ่อแม่คือ
- ต้องมีความสัมพันธ์เป็นลูกแท้ๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
- ในกรณีลูกบุญธรรมจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
- พ่อแม่มีรายได้ต่อปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
- ตัวผู้ลดหย่อนหรือพ่อแม่ต้องอยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันภายในปีภาษี

การมีประกันชีวิตที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้จะช่วยให้คุณสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนและผู้ที่มีรายได้ประจำ ก็ควรมองหาตัวเลือกที่สามารถทำให้คุณมีทั้งความคุ้มครองด้านสุขภาพ และสิทธิในการลดหย่อนภาษี




2


5  วิธีแก้อ่างล้างหน้าตันด้วยตนเอง โดยใช้ของใช้ที่มีอยู่แล้วภายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องเรียกช่างมาซ่อมแซม และไม่ต้องเสียค่าอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกด้วย
ปัญหา อ่างล้างหน้าตัน เป็นปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ บ้าน ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง โดยสาเหตุของการตันมักเกิดจากเศษสิ่งสกปรก เศษผม และคราบไขมันต่าง ๆ ลงไปอุดตันภายในท่อ ทำให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำทิ้งไม่ได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาความสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องน้ำตามมา วันนี้ TOTO จึงมี 5 วิธีแก้อ่างล้างหน้าตันด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเรียกช่างมาฝากกัน

1.ไม้แขวนเสื้อช่วยได้
ไม้แขวนเสื้อเป็นสิ่งของอย่างแรก ๆ ที่คุณควรนึกถึงเมื่อเกิดปัญหาอ่างล้างหน้าตัน โดยนำไม้แขวนเสื้อมาดัดให้เป็นเส้นตรงแล้วงอปลายขึ้นเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นตะขอเกี่ยว แล้วใช้ส่วนงอหย่อนลงไปเพื่อเกี่ยวเศษขยะ เส้นผม สิ่งอุดตันต่าง ๆ ขึ้นมา วิธีนี้จึงเหมาะกับปัญหาที่ยังไม่รุนแรงมากนัก หรือแบบที่ยังมองเห็นเศษสิ่งสกปรกได้อยู่

2. ปั๊มลมยาง
ปั๊มลมยางเป็นอุปกรณ์แก้ปัญหาอุดตันในห้องน้ำที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากใช้กับโถสุขภัณฑ์แล้ว ก็ยังใช้กับท่อระบายน้ำ และอ่างล้างหน้าตันได้อีกด้วย โดยเริ่มจากเติมน้ำลงไปประมาณครึ่งหนึ่งแล้วใช่ปั๊มยางครอบที่รูระบายน้ำ ปั๊มขึ้น-ลงเร็ว ๆ ประมาณ 10 ครั้ง แล้วยกขึ้นจากน้ำทันที น้ำที่อุดตันอยู่จะไหลลงท่อได้สะดวกยิ่งขึ้น หากน้ำยังไม่ไหลลงท่อให้ทำซ้ำอีกประมาณ 2-3 ครั้ง


3. ขวดน้ำพลาสติก
หากพบปัญหาอ่างล้างหน้าตัน ขวดน้ำพลาสติกขนาด 750 มล. ขึ้นไป เป็นวิธีแก้อุดตันด้วยตัวเองที่ใช้อุปกรณ์เพียงแค่อย่างเดียว โดยเปิดน้ำให้เต็ม แล้วเติมน้ำให้เต็มขวด จากนั้นเปิดฝาขวดน้ำแล้วคว่ำขวดให้ปากขวดอยู่บริเวณปากตะแกรงของท่อระบายน้ำ แล้วจึงบีบขวดน้ำเพื่อให้แรงดันน้ำในขวดลงไปยังท่อระบายน้ำ ช่วยให้เศษสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่หลุดออกไปและช่วยให้น้ำไหลลงท่อได้สะดวกขึ้นนั่นเอง

4. เบกกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชู
เมื่อพูดถึงปัญหาในห้องน้ำแล้วจะไม่นึกถึงเบกกิ้งโซดา และน้ำส้มสายชูก็คงจะไม่ได้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาสำคัญที่ทุกครัวเรือนมักใช้กัน ไม่ว่าจะใช้ทำความสะอาด หรือแก้ปัญหาอ่างล้างหน้าตันก็ได้เช่นกัน โดยใส่เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยตวง แล้วเทน้ำส้มสายชูอีกครึ่งถ้วยตวงลงในท่อระบายน้ำแล้วทิ้งไว้สักพักหนึ่งจึงเทน้ำร้อนลงไปละลายไขมันที่อุดตันอยู่ในท่อ เป็นอีกวิธีแก้ด้วยตัวเองได้ดีเลยทีเดียว

5. ทำความสะอาดท่อน้ำ
หากปัญหาอ่างล้างหน้าตันที่เกิดจากการสิ่งสกปรก เช่น เส้นผม อุดตัน เป็นจำนวนมาก ควรแก้ไขด้วยการถอดท่อออกมาล้างทำความสะอาด โดยปิดวาล์วน้ำแล้วคลายเกลียวที่สะดือ ซึ่งเชื่อมต่อกับท่อน้ำทิ้ง จากนั้นจึงนำท่อมาล้างทำความสะอาดเพื่อกำจัดเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ แล้วนำกลับไปติดตั้งดังเดิม โดยอย่าลืมเปิดน้ำตรวจดูว่ามีน้ำรั่วซึมหรือไม่


อ่างล้างหน้าตัน เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีแก้ด้วยตัวเอง โดยใช้อุปกรณ์ที่หาได้ภายในบ้าน ไม่ต้องเรียกช่างมาซ่อมแซมหรือใช้อุปกรณ์แบบมืออาชีพ นอกจากจะทำได้ง่ายแล้วก็ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์อ่างล้างหน้าคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นตัว ก๊อกน้ำ และ สะดืออ่างล้างหน้า TOTO ก็มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายแบบ โดยมีดีไซน์สวยงามทันสมัย ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะอาดอีกด้วย

หน้า: [1]