ผู้เขียน หัวข้อ: งานมอเตอร์โชว์: ฮอนด้า CR-V e:HEV RS ขับสี่ล้อ ฟูลไฮบริด เอสยูวีคันจบของบ้าน  (อ่าน 4 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 133
  • ขาย เช่า บริการ ลด แลก แจก แถม แห่งใหม่ ลงประกาศได้ไม่จำกัด เว็บลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน สินค้าใหม่หรือมือสอง ประกาศขายบ้าน ขายรถ.ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
งานมอเตอร์โชว์: ฮอนด้า CR-V e:HEV RS ขับสี่ล้อ ฟูลไฮบริด เอสยูวีคันจบของบ้าน

ครั้งนี้เป็นการลองสมรรถนะการใช้งานจริงของ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” รุ่น e:HEV RS 4WD ที่เป็นระบบฟูลไฮบริด ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โลดแล่นไปได้ทุกเส้นทางกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS) รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ มั่นใจทุกการขับเคลื่อนกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) หลังเคยขับในการทดสอบกลุ่มที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นปีที่ผ่านมาหลังเปิดตัวไม่นาน ปัจจุบันกระแสเอสยูวีครอบครัวยังได้รับความนิยมต่อเนื่องโดยเฉพาะ EV กับ HEV ไฮบริด แต่การไม่มองข้ามความสำคัญของตัวรถคือ สมรรถนะการขับ นอกเหนือไปจากเรื่องความประหยัดและพลังงานไฟฟ้าแล้วยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ นั่นทำให้เราอยากลอง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น e:HEV RS 4WD ที่เป็นตัวท็อปและขับเคลื่อนแบบ AWD รีลไทม์ เอสยูวีฟูลไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีขนาดใหญ่พอกับทุกครอบครัว จะตอบโจทย์ความเป็นเอสยูวีของครอบครัวในระดับราคาล้านปลายได้ดีขนาดไหน และนี่คือข้อสรุปจากการขับใช้งาน 4 วัน 3 คืน ระยะทาง 671 กม. มีทั้งในเมืองและนอกเมือง
 
การขับทั้งหมด 671 กม. เป็นการขับทั้งในและนอกเมืองผสมผสานกัน โดยมีทริปทางไกลด้วย สรุปได้ว่า เบาะนั่งสบายแม้ขับทางไกลนานๆ ทัศนะวิสัยดีด้วยความสูงที่กำลังพอดี ตัวรถควรติดบันไดข้างเพิ่มเพื่อการก้าวขึ้นลงที่สะดวก โดยเฉพาะคนสูงอายุ การขับด้วยโหมด ECON  ที่ประหยัดสุดไม่ได้รู้สึกว่าอืดหรือหน่วงเหมือนบางยี่ห้อ เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประวันในเมืองเพื่อความประหยัด โหมด Normal ลองแล้วก็ขับได้ลื่นไหลกว่าเดิมรู้สึกได้ชัดเจน เพียงพอต่อการขับแบบสปอร์ตด้วย เมื่อขับออกต่างจังหวัด ถนนเปิดโล่งมากขึ้นได้ลองปรับเป็นโหมด Sport พบว่าเหมือนรถที่ติดบูสต์ดีๆ นี่เอง เร้าใจกว่าเดิมมาก จนลืมไปเลยว่านี่คือ เอสยูวีขนาดใหญ่หนักเกือบ 2 ตัน และใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว ที่ให้การยึดเกาะที่ดีและนุ่มนวลเกินคาด การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน apple carplay ไร้สายให้ความสะดวกอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะใช้แผนที่ google หรือเล่นเพลงจาก Spotify ซึ่งระบบเนวิเกเตอร์แผนที่ของตัวรถกลายเป็นไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ขับได้สบายใจและมั่นใจกับระบบช่วยเหลือและ Honda Sensing ที่ช่วยเตือนในจังหวะสำคัญไม่ว่าเบรกและเปลี่ยนเลน สุดท้ายเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองได้ตัวเลขจากหน้าจอข้อมูลรถที่ 14 กม./ลิตร นับว่าน่าพอใจสำหรับเอสยูวี ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบรีลไทม์อย่าง“ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” รุ่น e:HEV RS 4WD
 
HighLight ฮอนด้า CR-V e:HEV RS
 มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)
เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) เลือกปรับโหมดการขับตามสไตล์  สปอร์ต (Sport Mode)  ปกติ (Normal Mode) และประหยัด (Econ Mode)

ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่น e:HEV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง  ราคา 1,729,000 บาท
รุ่น e:HEV ES  5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566 ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษ
ด้านการบริการหลังการขาย** ได้แก่
ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง