ผลไม้สีแดงถือเป็นกลุ่มผลไม้ที่พบได้บ่อยในเมนูอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวาน โดยนอกจากสีแดงที่เด่นชัดแล้ว ผลไม้ในกลุ่มนี้ยังมีจุดเด่นในด้านสารอาหารดี ๆ ที่อาจมีส่วนช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมของผู้รับประทานแข็งแรงได้อีกด้วย
สีแดงของผลไม้กลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ สตรอว์เบอร์รี เชอรี หรือแตงโม เป็นผลมาจากสารในกลุ่มไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ซึ่งเป็นสารที่พบได้เฉพาะในพืชผักผลไม้ โดยสารในกลุ่มนี้ก็จะสามารถแยกออกได้เป็นหลายชนิด และแต่ละชนิดก็จะให้สี รสชาติ กลิ่น และประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
ประโยชน์ของผลไม้สีแดง
สารในกลุ่มไฟโตนิวเทรียนท์หลัก ๆ ที่มักพบได้มากในผลไม้สีแดงจะมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่
1. สารไลโคปีน
สารไลโคปีน (Lycopene)จะเป็นสารที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ โดยประโยชน์เด่น ๆ ของสารชนิดนี้ก็คือ การมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งเป็นสารที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายเกิดโรคหรือภาวะผิดปกติรุนแรงได้มากมาย เช่น เบาหวาน หรือโรคหัวใจ
นอกจากนี้ สารไลโคปีนยังอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคหัวใจ และอาจมีส่วนช่วยป้องกันผิวหนังจากการถูกรังสียูวีในแสงแดดทำร้ายอีกด้วย
2. สารแอนโทไซยานิน
สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) โดยมีประโยชน์หลัก ๆ คือการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) รวมถึงอาจมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ อาจช่วยควบคุมความดันโลหิต อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันในหลอดเลือด อาจช่วยบรรเทาการอักเสบในร่างกาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานชนิดที่ 2
ข้อควรทราบก่อนรับประทานผลไม้สีแดง
โดยทั่วไปแล้ว ผลไม้สีแดงเป็นกลุ่มผลไม้ที่ค่อนข้างปลอดภัยและไม่ส่งผลข้างเคียงใด ๆ จากการรับประทาน แต่ในกรณีที่พบได้น้อย อย่างคนที่รับประทานผลไม้สีแดงในปริมาณมาก ๆ ก็อาจพบอาการผิวหนังมีสีออกส้มได้ชั่วคราวเช่นกัน
ดูแลสุขภาพ: ผลไม้สีแดง แหล่งของสารอาหารดี ๆ และข้อควรรู้ก่อนรับประทาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/