งานมอเตอร์โชว์: Audi Q8 TFSI e quattro S line edition one SUV ปลั๊กอินไฮบริด 394 แรงม้า ปรับโฉมใหม่เพิ่มความปลอดภัยแบตฯใหญ่ขึ้น 5.799 ล้านบาทAudi Q8 TFSI e quattro S line edition one มาพร้อมความดุดันด้วยกระจังหน้าใหม่ไฟท้ายใหม่ล้อลายสปอร์ต 22 นิ้ว เพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบถ้วน ใหม่ Adeptive cruise control with Stop&Go (ACC) นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า,เตือนพร้อมดึงกลัยเมื่อออกนอกเลน,เตือนเมื่อมีวัตถุขณะถอยหลัง พร้อมอัปเดต Brand CI กับ Audi Ring 2D Logo และ Audi lettering ชื่อรุ่นรถ เปิดราคาที่ 5,799,000 บาท
ภายในมาตรวัด Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว จอกลาง MMI สัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen และจอสัมผัสมัลติฟังก์ชั่นด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว สำหรับปรับระบบแอร์และการปรับปรับนั่ง เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona ติดตั้ง S line LED projector light
ความปลอดภัยเต็มคันครบถ้วน
ระบบความปลอดภัยเต็มคัน Adaptive cruise control with "Stop&Go" function (ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน และรักษาระยะห่างจากด้านหน้า) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ที่สามารถหยุดรถได้อัตโนมัติเมื่อรถคันหน้าหยุด และเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้งเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ติดขัด โดยระบบนี้จะช่วยรักษาความเร็วที่ตั้งไว้ และปรับความเร็วอัตโนมัติพร้อมรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
Audi pre sense basic, front and rear (ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบพื้นฐาน ด้านหน้า และด้านหลัง)ระบบจะประเมินสถานการณ์การขับขี่ จากการทำ งานของเซ็นเซอร์ภายใต้ระบบควบคุมการทรงตัว ESC, เรดาร์เซ็นเซอร์บริเวณด้านหน้า และด้านท้ายรถ หรือการเหยียบแป้นเบรกอย่างรุนแรงในกรณีที่ประเมินว่ามีแนวโน้มที่อาจเกิดอันตรายได้ ระบบจะดึงรั้งสายเข็มขัดนิรภัยของเบาะคู่หน้าให้กระชับ นอกจากนั้นแล้วหากกระจกถูกเปิดค้างไว้ ระบบจะปิดให้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดการทำ งานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน
Exit warning (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ) ขณะที่รถจอดหยุดนิ่ง ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบยานพาหนะที่เคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยาน กำ ลังเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารภายในรถกำ ลังเปิดประตูจากด้านใน สัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้น
Lane change assist (ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน) เรดาร์เซ็นเซอร์ 2 ตำ แหน่งที่อยู่ด้านท้ายของตัวรถจะช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจสอบสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง (มีข้อจำ กัดในการทำ งานที่ช่วงระดับความเร็วตั้งแต่ 15-250 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เมื่อระบบประเมินว่ารถอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายได้หากผู้ขับขี่เปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนขึ้นที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อตั้งใจเปลี่ยนเลนไปยังทิศทางดังกล่าวสัญญาณเตือนจะกระพริบถี่ขึ้น
Rear cross traffic assist (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง) ระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะถอยรถออก หากตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วพบว่ามีรถเคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตรายระบบจะส่งสัญญาณเตือน และหากอยู่ในสถานการณ์คับขันระบบจะช่วยเบรกเพื่อลดทอนอุบัติเหต
พลังปลั๊กอินไฮบริด ประหยัดขึ้น แบตฯ ใหญ่วิ่งไกลกว่าเดิม
ขุมพลัง Plug-in Hybrid ใหม่เบนซิน V6 เทอร์โบ พลัง 340 แรงม้า 500 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า 460 นิวตันเมตร รวมทั้งสองระบบ 394 แรงม้า 600 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที เพิ่มแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็น 25.9 kWh วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ถึง 71.7 กม./ชม. WLTP ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. รองรับ AC charger 7.4 kWh สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีขึ้นถึง 55.1 กม./ลิตร (จากเดิม 45 กม./ลิตร)
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro แบบ Self-locking centre differential เป็นระบบ quattro ที่ขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา สามารถปรับเปลี่ยนกำลังจ่ายแต่ละล้อได้เป็น 70:30 หรือ 15:85 ด้วยความอัจฉริยะของระบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนการจ่ายกำลังได้อัตโนมัติ ตามสภาพพื้นผิวและลักษณะการขับขี่ ยึดเกาะถนนดี เข้าโค้งคม เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และขับสนุกเร้าใจ มั่นใจได้ทุกการขับขี่ในทุกๆเส้นทาง
Audi Q8 TFSI e quattro S line edition one มีสีใหม่ให้เลือก คือ Sakhir Gold Metallic (Special color) Chili Red Metallic และ Waitomo Blue Metallic พร้อม 4 เฉดสียอดนิยมของแฟนอาวดี้ Glacier White Metallic / Satellite Silver Metallic / Mythos Black Metallicและ Daytona Grey Pearl Effect
นำเข้าจากเยอรมันทั้งคัน พร้อม Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถไฟฟ้า e-tron และรถ Plug-in Hybrid TFSI e ใหม่ทุุกรุ่น รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี